Tanker rates stall while dry bulk and gas surge on Pacific routes

22 พ.ค. 68 l ศูนย์วิจัย AMCOL

รายงาน Fearnleys Weekly Report ประจำวันที่ 21 พฤษภาคม 2025

ได้สะท้อนภาพรวมของตลาดเรือบรรทุกน้ำมัน เรือเทกอง และเรือก๊าซในช่วงเวลาปัจจุบันอย่างละเอียด

     โดยในกลุ่มเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่มาก (VLCC) ตลาดในตะวันออกกลาง-เอเชีย (MEG-East) เคยมีสัญญาณว่าจะฟื้นตัว แต่ปรากฏว่าแรงส่งกลับอ่อนแรงลงอย่างรวดเร็ว อัตราเหมาลำที่สูงสุดอยู่ที่ WS 64.5 ลดลงมาที่ WS 59.5 สำหรับเส้นทางไปเวียดนามและไต้หวัน โดยแม้จะดูดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานบ้าง แต่แนวโน้มทั่วไปคือราคากำลังปรับตัวลดลง และโอกาสในการขยับขึ้นต่อค่อนข้างจำกัด

     สำหรับเรือ Suezmax ตลาดฝั่งแอตแลนติกยังคงเงียบเหงา โดยเฉพาะเส้นทางจาก West Africa ไป UKCM ที่คาดว่าจะต่ำกว่า WS 80 จากแรงกดดันของจำนวนเรือที่ยังมาก ขณะที่ฝั่งสหรัฐอเมริกาดูจะเริ่มมีแรงดึงดูดเรือจากยุโรปมากขึ้น ซึ่งอาจกระทบตลาดอื่นในระยะถัดไป ส่วนตลาด Aframax ใน North Sea เริ่มมีการฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ขณะที่ใน Mediterranean ภาพรวมยังทรงตัว แต่มีข้อจำกัดด้านฝั่ง Suezmax ซึ่งส่งผลให้แนวต้านของ Aframax ไม่แข็งแรงมากนัก

     ค่าเช่าเหมาลำระยะยาว 1 ปีสำหรับเรือ VLCC อยู่ที่ 51,000 ดอลลาร์ต่อวัน สำหรับ Suezmax และ Aframax อยู่ที่ 37,500 และ 28,500 ดอลลาร์ต่อวันตามลำดับ

Dry Bulk

     ในส่วนของตลาดเรือเทกอง (Dry Bulk) ภาพรวมของกลุ่ม Capesize มีความเคลื่อนไหวค่อนข้างดี โดยเฉพาะจากฝั่งเหมืองแร่ที่เริ่มมีคำสั่งซื้อสำหรับต้นเดือนมิถุนายน และจำนวนเรือว่างในเอเชียแปซิฟิกเริ่มลดลง อัตราค่าเช่าสำหรับ Pacific Round Voyage อยู่ที่ประมาณ 16,464 ดอลลาร์ต่อวัน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาด Panamax กลับอ่อนตัวลงจากฝั่ง Atlantic เนื่องจากมีเรือว่างจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ภูมิภาค Pacific ยังพอมีความหวัง โดยมีความต้องการเพิ่มขึ้นจากออสเตรเลียและอเมริกาเหนือฝั่งแปซิฟิก ขณะที่ตลาด Supramax และ Ultramax ค่อนข้างนิ่งในภาพรวม โดยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มดีขึ้นจากเรือที่มีจำนวนจำกัด ส่วนตลาดในแถบ Atlantic ยังคงแสดงสัญญาณอ่อนตัว โดยเฉพาะบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

     ดัชนี Baltic Dry Index (BDI) อยู่ที่ 1,337 จุด ลดลงเล็กน้อย สะท้อนความไม่แน่นอนของตลาด ส่วนค่าเช่าเหมาลำรายปีสำหรับกลุ่ม Capesize อยู่ที่ 18,450 ดอลลาร์ ขณะที่ Kamsarmax, Ultramax และ Handysize อยู่ที่ระดับ 12,500 – 13,500 ดอลลาร์ต่อวัน

Gas

     ตลาดเรือบรรทุกก๊าซ (LPG และ LNG) ในฝั่งตะวันออกของ Suez ยังครองความน่าสนใจ แม้ว่าจะเริ่มมีความรู้สึกว่าอัตราอยู่ใกล้จุดสูงสุดแล้ว โดยราคาค่าเช่า VLGC ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.7 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ขณะที่ตลาดในฝั่งตะวันตกไม่มีการทำสัญญาใหม่ และแนวโน้มของอัตราเช่ายังอยู่ในช่วงตกต่ำ สำหรับตลาด LNG ค่าเช่า Spot ของเรือขนาด 155–165k cbm อยู่ที่ 13,000 ดอลลาร์ต่อวันในฝั่งตะวันออก และ 16,000 ดอลลาร์ต่อวันในฝั่งตะวันตก ลดลงจากสัปดาห์ก่อนอย่างเห็นได้ชัด

     ในด้านการต่อเรือใหม่ กิจกรรมยังคงชะลอตัวทั้งในหมวดเรือบรรทุกน้ำมันและเรือเทกอง โดยราคาต่อเรือใหม่สำหรับ VLCC อยู่ที่ 124 ล้านดอลลาร์ และสำหรับ Capesize อยู่ที่ 75 ล้านดอลลาร์ ส่วนตลาดซื้อขายเรือมือสองก็สะท้อนภาพของการทรงตัว โดยเรือ VLCC มือสองอายุ 5 ปีอยู่ที่ 109 ล้านดอลลาร์ และ Capesize อยู่ที่ 63 ล้านดอลลาร์

     ในส่วนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง (Bunker) น้ำมันเบรนท์ยังคงทรงตัวที่ 65.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมัน 380 CST และ MGO ในสิงคโปร์อยู่ที่ 447.5 และ 619 ดอลลาร์ต่อตันตามลำดับ โดยส่วนต่างระหว่างน้ำมันหนักกับ MGO อยู่ที่ประมาณ 171.5 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ยังสะท้อนต้นทุนเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างสูงสำหรับการเดินเรือ

     รายงานฉบับนี้สรุปภาพรวมของตลาดขนส่งทางเรือที่อยู่ในภาวะผันผวน โดยเฉพาะตลาดน้ำมันที่เริ่มแสดงแนวโน้มอ่อนตัว ในขณะที่ตลาดเทกองและก๊าซมีความหวังบางส่วนเฉพาะในพื้นที่แปซิฟิก ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก และปัจจัยด้านอุปทานยังคงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป.

อ่านต้นฉบับ : Fearnleys Weekly Report | Fearnpulse